CompressX: WordPress ปลั๊กอินลดขนาดรูปฟรี ที่ทุกไซต์ควรมี

|
5 นาที ในการอ่าน

ไม่นานมานี้ได้มีโอกาสทำเว็บไซต์ Personal Brand เลยไปเจอกับปลั๊กอินตัวนึงซึ่งดีมากๆ ดีเกินจริงไป โดยมีความสามารถ ที่ช่วยลดขนาดรูปภาพที่อัพขึ้นไปบนเว็บไซต์, แปลงเป็นฟอร์แมต WebP หรือ AVIF, เลือก library ที่ต้องการใช้ในการแปลงรูปได้, จัดการรูปที่เคยอัพไปแล้วได้ด้วย, กำหนดขนาดรูปสูงสุด และยังมีฟีเจอร์อีกมากมาย จนคิดว่าเป็นปลั๊กอินเสียตังค์แน่ๆ แต่ทั้งหมดที่ว่านั้นคือฟรี เราลองมาดูกันว่ามีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง

เปิดใช้งาน CompressX

เลือกไลบรารี่ที่จะมาใช้บีบอัดรูปภาพ

เราสามารถเลือก ไลบรารี่ที่จะมาเอามาช่วยแปลงไฟล์ได้ โดยให้เลือกระหว่าง

GD: จะเป็น PHP Extension ที่ช่วยจัดการย่อขนาดรูป ข้อดีโดยจะมีความเร็วกว่า ในการจัดการรูปขนาดใหญ่ แต่ข้อเสียจะรองรับฟอร์แมตไฟล์ได้น้อยกว่า

Imagick: เป็นอีกทางเลือกหนึ่งโดยจะรองรับฟอร์แมตได้เยอะกว่า และทำให้รูปภาพออกมาได้คุณภาพที่สูงกว่า

ตรวจสอบว่าเซิฟเวอร์รองรับไหม
แสดงข้อมูลเซิฟเวอร์

โดยเราสามารถคลิกเพื่อตรวจสอบได้ว่า Hosting ที่เราใช้งานได้ทำการเปิด Extension ดังกล่าวไว้ไหม ได้ที่ลิงก์ Check Environment

ให้เลือกฟอร์แมตไฟล์ WebP, AVIF

เลือกฟอร์แมต WebP, AVIF

ความแตกต่างระหว่างทั้งสองฟอร์ตแมตสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม โดย

WebP: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เพราะรองรับบนเบราว์เซอร์หลักและแพลตฟอร์มที่หลากหลาย และยังคงให้คุณภาพสูงพร้อมขนาดไฟล์เล็กกว่าฟอร์แมตดั้งเดิม (JPEG, PNG)

AVIF: เหมาะสำหรับการลดขนาดไฟล์ให้เล็กที่สุดและต้องการภาพที่มีคุณภาพสูง (เช่น เว็บไซต์ที่ต้องการแสดงภาพ HDR) แต่ยังไม่เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเข้ากันได้แน่นอนกับทุกอุปกรณ์ในปัจจุบัน

เลือกคุณภาพของรูป

ปรับคุณภาพของรูปภาพได้

Lossless (ระดับการบีบอัด 100):
ไม่มีการสูญเสียคุณภาพของภาพ แม้ว่าข้อมูลทั้งหมดจะยังอยู่ครบ แต่ขนาดไฟล์อาจใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับระดับอื่น เหมาะสำหรับภาพที่ต้องการรักษาคุณภาพสูงสุด เช่น ภาพที่ใช้ในการพิมพ์

90 (→):
การบีบอัดเล็กน้อย คุณภาพของภาพอาจเปลี่ยนลงเล็กน้อย แต่ยังใกล้เคียงภาพต้นฉบับ เหมาะสำหรับภาพที่ต้องการลดขนาดไฟล์ แต่ยังแสดงผลคุณภาพสูง

80 (ค่าเริ่มต้น):
เป็น ระดับค่าเริ่มต้น (Default level) ซึ่งเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ให้สมดุลที่ดีระหว่างคุณภาพภาพและขนาดไฟล์ที่เล็กลง เหมาะสำหรับเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย

70 (→):
การบีบอัดลดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพเริ่มสูญเสียรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่ขนาดไฟล์จะลดลงอย่างมาก เหมาะสำหรับภาพที่เน้นประหยัดพื้นที่ เช่น ภาพแสดงผลบนอุปกรณ์ที่ไม่ต้องการรายละเอียดสูงมาก

Lossy (ระดับการบีบอัด 60):
บีบอัดมากที่สุด คุณภาพของภาพจะลดลงอย่างชัดเจนเพื่อให้ได้ไฟล์เล็กที่สุด เหมาะสำหรับภาพที่โหลดในอุปกรณ์ความเร็วอินเทอร์เน็ตต่ำ หรือการบีบอัดเพื่อนำไปใช้งานบางประเภท

Custom:
ปรับระดับการบีบอัดได้เองตามความต้องการ

โปรเซสรูปภาพที่เคยอัพมาแล้ว

รูปภาพที่เคยอัพแล้ว สามารถทำการ โปรเซสได้อีกรอบ

ชอบฟีเจอร์นี้ที่สุด โดยรูปภาพ ที่เราได้ทำการอัพโหลดไปแล้วก่อนที่จะติดตั้งปลั๊กอิน CompressX เราสามารถดึงรูปเก่าๆขึ้นมา แล้วเอามาบีบอัดได้อีกรอบ

โดยรูปไหน ที่เคยทำการย่อแล้ว มันจะข้ามไป แต่ถ้าหากใครต้องการให้ทำใหม่ทั้งหมดก็สามารถติ๊กเลือก “Force all images to be re-processed” ได้ ใครรูปเยอะหน่อยอาจจะต้องรอซักพักใหญ่ๆ เลยครับ เท่าที่ผมทดสอบ

ปรับกฎในการเรียกรูปมาแสดง

กำหนดการเรียกใช้รูปหน้าด้วย rewrite rule หรือ pictures tag

การย่อขนาดรูปเท่าที่ผมไปลองแกะว่ามันทำงานยังไง คือมันจะเก็บรูปต้นฉบับเอาไว้ และค่อยแปลงเป็น WebP หรือ AVIF อีกที ดังนั้นควรระมัดระวัง อัพรูปที่ใหญ่เกินไป อาจจะทำให้เปลืองพื้นที่เซิฟเวอร์ได้

การ Override ในส่วนของการแสดงผลหน้าบ้านจะมีสองวิธีหลักๆ ที่ปลั๊กอินจะนำรูปที่บีบอัดแล้วไปแสดงผล โดยแต่ละวิธีขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเซิฟเวอร์

Rewrite Rule: โหลดภาพ WebP และ AVIF โดยเพิ่ม Rewrite Rule ลงไปในไฟล์ .htaccess หากเบราว์เซอร์รองรับ AVIF ก็จะทำการโหลดภาพในฟอร์แมต AVIF ถ้าไม่รองรับก็จะใช้โหลดในฟอร์ตแมต WebP แทน หรือถ้าหากทั้งสองฟอร์แมตไม่รองรับ ก็จะไปโหลดภาพที่ต้นฉบับแทน ( โดยไฟล์ .htaccess ที่หมายถึงจะอยู่ที่ /wp-content/.htaccess )

Picture Tag: โหลดภาพ WebP และ AVIF ด้วย<picture> แทน <img> เลือกวิธีนี้ก็ต่อเมื่อไฟล์ .htaccess ไม่สามารถแก้ไขได้ วิธีนี้สามารถทำงานได้กับเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่ เพียงแต่จะไม่รองรับภาพที่อยู่ใน CSS

การตั้งค่าอื่นๆ

การตั้งค่าอื่นๆ ที่น่าสนใจ

  • ไม่ให้ PNG แปลงเป็น AVIF: เนื่องจากไลบรารี่ ImageMagick 6.x เมื่อทำการแปลงฟอร์แมตจะทำให้สูญเสียพื้นหลังโปร่งใสได้ จะรองรับเวอร์ชั่น 7 ขึ้นไป
  • ให้ลบทันทีหลังจากที่ทำการบีบอัดไฟล์ ถ้ารูปที่ถูกแปลงมีขนาดใหญ่กว่ารูปต้นฉบับ
  • ตั้งค่าขนาดสูงสุดของรูปภาพ ทั้งความกว้างและสูง ถ้าหากรูปที่อัพมามีขนาดใหญ่เกินกว่าที่กำหนด ปลั๊กอินจะแปลงขนาดให้ไม่เกินค่าที่กำหนดไว้
  • เลือกขนาดรูปภาพที่ต้องการแปลงไฟล์ได้ (​ Original, Thumbnail, Medium, Large, etc. )
  • กำหนดโฟลเดอร์นอกเหนือจาก uploads ที่ ต้องการ/ไม่ต้องการให้ ทำการลดขนาดรูปที่เคยอัพไปได้อีกด้วย

ตอนแรกที่ได้เห็นฟีเจอร์นี้ บอกเลยว่าตะลึงกับความสามารถที่มันให้มามากจริงๆ ถ้ามันเป็นปลั๊กอินแบบเสียเงินก็คงไม่แปลกใจเลย เพราะความครบครันขนาดนี้ ตอนนี้ในตลาดมีปลั๊กอินหลายตัวที่ทำฟีเจอร์แบบนี้ได้ แต่สำหรับตอนนี้ ต้องบอกว่าผมประทับใจกับตัวนี้ที่สุดจริงๆ หากใครสนใจไปตามได้ที่วาปด้านล่างได้เลยครับ ได้ ที่นี่

Designil PDPA Banner
แชร์:
line

author - aum watcharapon
อั้ม วัชรพล
👨🏻‍💻 ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน WordPress

Subscribe to newsletter

doaction จะส่งเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีบทความใหม่ๆ ในเว็บไซต์และสามารถกดยกเลิกได้ตลอดเวลา

บทความอื่นๆ

ใช้ Gutenburg อย่างไรไม่ให้ผู้ใช้ทำเว็บพัง ด้วย Overrides Pattern

ปัจจุบัน Gutenberg ได้พัฒนาไปไกลจนสามารถรองรับ Full Site Editing (FSE) ได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ตั้งแต่ Header, Footer ไปจนถึงส่วนประกอบอื่น ๆ บนหน้าเว็บ โดยไม่ต้องพึ่งธีมหรือโค้ดเพิ่มเติมมากนัก นอกจากนี้ บล็อกต่าง ๆ ยังมีคุณสมบัติปรับแต่งที่หลากหลาย ช่วยให้การออกแบบยืดหยุ่น อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบได้บ่อยสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้คือความผิดพลาดที่เกิดจากการแก้ไขหรือปรับแต่งแบบไม่ตั้งใจ (เช่น การเปลี่ยน Component หรือ Layout โดยไม่ระวัง) ซึ่งอาจทำให้การจัดวางโครงสร้างเว็บไซต์เสียหายหรือ “พัง” ได้ เพื่อตอบโจทย์ปัญหานี้ WordPress ตั้งแต่เวอร์ชัน 6.6 ขึ้นไป ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Overrides Pattern ซึ่งช่วยป้องกันการแก้ไขที่อาจส่งผลต่อการทำงานของส่วนประกอบต่าง ๆ  Pattern คืออะไร ? Pattern ใน WordPress คือชุดของ Blocks หลาย ๆ ตัวที่ถูกรวมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นกลุ่มหรือโครงสร้างสำเร็จรูป เปรียบเสมือน […]

อ่านต่อ

หากมีคำถาม หรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับ WordPress

สำนักงาน

  • บริษัท ดู แอคชั่น จำกัด
    66 ซอยเพชรเกษม 98/1, ถนนเพชรเกษม,
    แขวงบางแคเหนือ, เขตบางแค
    กรุงเทพมหานคร
    10160
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อเสริมประสบการณ์การใช้งานของคุณ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า