เมื่อไม่นานมานี้ วงการ WordPress ได้รับผลกระทบจากการขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่าง WordPress และ WP Engine ที่ทำให้หลายๆ คนตกใจและสงสัยในเส้นทางของทั้งสองยักษ์ใหญ่ โดยความขัดแย้งนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการโฮสต์ของ WP Engine เท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงการปิดกั้นปลั๊กอิน ACF ที่เกี่ยวข้องและการแบนจาก Directory ของ WordPress.org ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานที่อยู่ในระบบของ WP Engine อาจไม่สามารถเข้าถึงการอัพเดทหรือการสนับสนุนจาก WordPress ได้อีกต่อไป
หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือปลั๊กอิน Meta Box ซึ่งทำหน้าที่จัดการฟิลด์ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ Meta Box ว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้างที่น่าลอง และทำไมมันถึงกลายเป็นปลั๊กอินยอดนิยมที่ถูกกล่าวถึงในช่วงนี้
สารบัญ
ข้อแตกต่างระหว่าง ACF vs META BOX
ปลั๊กอิน ACF (Advanced Custom Fields) เวอร์ชันโปรจะมาพร้อมกับความสามารถพื้นฐานที่หลากหลาย เช่น การจัดการ Options Page, ฟิลด์, และ Post Type ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันที
การออกแบบ Meta Box เป็นลักษณะโมดูล โดยเริ่มต้นจำเป็นต้องติดตั้งเวอร์ชันฟรีก่อน และถ้าหากต้องการความสามารถเพิ่มเติม จำเป็นต้องติดตั้งปลั๊กอินส่วนเสริม การออกแบบนี้จะทำให้ปลั๊กอินไม่บวม โหลดเร็ว เนื่องจากจะโหลดเฉพาะฟังก์ชันที่จะใช้งานเท่านั้น
Meta Box มีส่วนเสริมต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสามารถ โดยแบ่งเป็นประเภทดังนี้
Data | UI | Admin | Frontend |
MB Blocks, MB Custom Table MB Revision MB Settings Page MB Term Meta MB User Meta MB User Profile Meta Box Geolocation Meta Box Group Meta Box Template | MB Admin Columns MB Blocks MB Frontend Submission MB User Profile MB Views, Meta Box Builder Meta Box Columns Meta Box Conditional Logic Meta Box Group Meta Box Include Exclude Meta Box Show Hide Meta Box Tabs Meta Box Template Meta Box Tooltip | MB Admin Columns MB Blocks MB Revision MB Settings Page Meta Box Builder Meta Box Template | MB Frontend Submission MB User Profile MB Views |
เรามาลองดูตัวอย่างความสามารถใน extension แต่ละตัวกันว่ามีตัวไหนที่น่าสนใจกันบ้าง
Meta Box AIO – รวมความสามารถของทุก Extension
ปลั๊กอินตัวนี้จำเป็นต้องติดตั้งตัวฟรีก่อนถึงจะใช้ตัว AIO ได้ โดยตัวนี้จะรวบรวมความสามารถของ extension ทุกตัว และสามารถจัดการ เปิด/ปิด extension และจะทำงานเท่าที่ตัวที่เราเปิดใช้เท่านั้น
Meta Box Builder – ใช้สำหรับการการสร้างฟิลด์
extension ตัวนี้จะเป็นตัวหลักที่เอาไว้ใช้สำหรับการสร้างฟิลด์ ซึ่งจะเทียบเท่ากับ ACF ตัวโปรที่จะมีความสามารถในการสร้างฟิลด์ต่างๆ ให้กับ Post Type, Taxonomy, User, Setting ที่ต้องการ โดยฟิลด์พื้นฐานที่มีมาให้
จะมีหน้าตาคล้ายๆ กับ ACF เลยถ้าใครเคยใช้ มาก่อนตรงนี้เรียนรู้ได้ไม่น่ายาก แต่ความสามารถจะไม่ครบครันเท่ากับ ACF Pro ต้องลง extension เพิ่มเติม โดยจะมีโค้ดพร้อมใช้ในธีมที่เตรียมไว้ให้แล้วด้วย
การตั้งค่าที่มีมาให้ก็จะเป็นการกำหนดสถานที่ ที่ต้องการแสดงไว้ใน post type ใด, ตำแหน่งที่จะแสดง, สไตล์ มาให้
Meta Box Group – จัดกลุ่มให้ฟิลด์
ตัวดั้งเดิม Meta Box Template จะไม่ได้มีความสามารถในการสร้างกลุ่มฟิลด์ขึ้นมาได้ เพื่อความสะดวก query ในการเรียกใช้งาน นอกจากนั้นยังมีความสามารถในการทำ repeater ได้ด้วย โดยการติ๊กที่ช่อง cloneable
MB Admin Column – เพิ่มฟิลด์ในหน้ารายการของ Admin
ปกติแล้วถ้าใช้ ACF ผู้ใช้จำเป็นต้องเขียนโค้ดเองเพื่อให้แสดงฟิลด์ในหน้ารายการ แต่ Meta box มีตัวเสริมความสามารถในการแสดงฟิลด์ในหน้ารายการให้แล้ว ให้เปิด Extension – MB Admin Column ก็จะมีปุ่มแสดงตามภาพ
MB Custom Table – สร้างตารางใหม่ เพื่อ Performance ที่ดีกว่า
ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นตัว Game Changer ของปลั๊กอินตัวนี้เลย ซึ่งปกติแล้ว WordPress จะเก็บข้อมูล meta ในลักษณะแนวตั้งข้อดีคือตัว ฟิลด์จะยืดหยุ่น ทำให้การเก็บข้อมูลเพิ่ม ลด ขยายได้ตลอดเวลา แต่ปัญหาเมื่อฟิลด์มากเยอะขึ้นจะส่งผลกระทบกับ ประสิทธิภาพ และความเร็วของเว็บไซต์
ยกตัวอย่าง
โพสต์ 1 โพสต์มีข้อมูล meta 20 แถว หากเว็บไซต์มี 100,000 โพสต์ ก็จะทำให้ตาราง post_meta ใหญ่ถึง 100,000 x 20 = 2,000,000 แถวเลยทีเดียว
ซึ่งตัวนี้จะทำให้เราสามารถสร้างตารางและเพิ่มคอลัมน์ ขึ้นมาให้เท่ากับข้อมูล meta ของเราเลย การเก็บข้อมูลจะเป็นลักษณะแนวนอนทำให้ 1 โพสต์มี meta 20 แถว ตัว Extension ก็จะสร้างคอลัมน์เพื่อเก็บข้อมูล เลยทำให้ 1 โพสต์จะเท่ากับ 1 แถวเท่านั้น ถ้ามี 100,000 โพสต์ ก็จะมีเพียงแค่ 100,000 แถวเท่านั้น ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 20 เท่าเลย
วิธีการใช้งาน เพียงทำตามรูป ด้านล่างนี้ได้เลย
ข้อเสียของการใช้ create แบบอัตโนมัติ คือ ชนิดคอลัมน์จะใช้เป็น TEXT หมดเลย ถ้าต้องที่จะปรับแต่งชนิด รวมถึง Key, Index ต่างๆ สามารถเขียนโค้ดสร้างขึ้นมาเองได้ โดยมี helper ของ Meta Box ช่วยได้ ตามนี้
ซึ่งวิธีการเรียกใช้งานก็จะแตกต่างกันนิดหน่อยโดยมีการกำหนดชื่อตารางกำกับไว้ใน parameter ที่ 2 ด้วย
และยังมีวิธีที่ Advanced ขึ้นไปกว่านั้นอีก คือการสร้าง model ขึ้นมาใหม่เลยโดยใช้ API ของ Meta Box ซึ่งการสร้างจะเหมือนกับการสร้าง Post Type ใหม่เลย แต่จะไม่ไปยุ่งกับตาราง wp_posts หรือ wp_postmeta เลย กลับกันจะไปสร้าง table ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ และบันทึกลง table นั้นเพียง table เดียวซึ่งทำให้ Performance ได้ดี แบบสุดๆ หากใครอยากศึกษาลองดูได้ ที่นี่
MB User Profile – สร้างฟอร์ม เข้าสู่ระบบ, ลงทะเบียน, แก้ไขโปรไฟล์
ตัวนี้จะช่วยสร้างฟอร์มสำหรับ Login, Register, Edit Profile ได้ โดยจะมี shortcode มาให้ และ component ใน gutenberg ให้ใช้ได้เลย
โดยวิธีการใช้งานฟอร์ม Edit Profile จำเป็นต้องเชื่อม field Group ID เข้ากับ form ID ใน Gutenberg ถึงจะทำงานได้ โดยเราสามารถเพิ่มฟิลด์ที่เราต้องการได้ หากอยากให้ฟอร์มสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านได้ก็สามารถสร้างฟิลด์ password แล้วทำการเชื่อม ID กัน
ส่วน first_name, last_name คือฟิลด์ตั้งต้นที่มีมาให้กับ WordPress เมื่อสร้างฟิลด์ให้ ID เชื่อมกัน ฟอร์มจะทำการดึงค่าเดิมมาให้อัตโนมัติ และนำไปอัพเดทต่อไป
สรุป
Meta Box มี extension ที่หลากหลายมาก หากไม่ได้ลองใช้ หรืออ่านคู่มือ อาจจะไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน แต่ยังดีที่ปลั๊กอินมีการแนะนำโค้ดและวิธีการใช้งานมาให้ในแต่ละฟิลด์ ถ้าหากใช้จนคล่อง เชื่อว่า Meta Box จะเป็นปลั๊กอินจัดการฟิลด์ที่ทรงพลังอย่างแน่นอน เพราะการแยกความสามารถออกเป็น extension ทำให้หลังบ้านโหลดได้รวดเร็วมาก
อีกทั้ง extension เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มฟิลด์หลังบ้านเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปต่อยอดในการสร้างระบบสมาชิก, ระบบส่งโพสต์จากหน้าบ้าน และการจัดการ การบันทึกข้อมูลด้วยตารางที่สร้างขึ้นเอง เพื่อแก้ปัญหาเรื่อง performance หากผู้อ่านสนใจ extension เพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมปลั๊กอินได้ ที่นี่